วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 10

 วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2561

KNOWLEDGE




เนื้อหาที่เรียน เรื่อง เทคนิคการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีสำหรับการเป็นผู้บริหาร
ความหมายของบุคลิกภาพ
        ลักษณะทั้งภายนอกและภายในที่รวมอยู่ในตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งและเป็นผลทำให้บุคคลนั้น มีความแตกต่างไปจากบุคคลอื่นๆ บุคลิกภาพแบ่งออกเป็น 2 สภาพ ด้วยกันคือ
        บุคลิกภาพภายนอก หมายถึง สิ่งที่สามารถสังเกตเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้โดยการฝึกเลียนแบบ และสามารถวัดผลได้ทันทีบุคลิกภาพภายนอกที่สำคัญที่สุด คือ บุคลิกภาพทางกายและวาจา
        บุคลิกภาพภายใน หมายถึง บุคลิกภาพที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เป็นส่วนที่สัมผัสได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลาในการสัมผัส

ประเภทของบุคลิกภาพ              
        บุคลิกภาพภายนอก  คือ  สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอกของแต่ละคนสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน แบ่งได้เป็น 4 หมวดคือ
        1.  รูปร่างหน้าตา
        2.  การแต่งกาย
        3.  กิริยาท่าทาง
        4.  การพูด
บุคลิกภาพภายใน คือ สิ่งที่อยู่ภายในจิตใจ หรืออุปนิสัยใจคอที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แก้ไขได้ยาก เช่น
        1. ความเชื่อมั่นในตนเอง                2. ความกระตือรือร้น
        3. ความรอบรู้                            4. ความคิดริเริ่ม
        5. ความจริงใจ                           6. ไหวพริบปฏิภาณ
        7. ความรับผิดชอบ                      8. ความจำ
        9. อารมณ์ขัน

การจำแนกบุคลิกภาพ 4 แบบ (Harris 1973)


การยอมรับตนเอง หน้าต่างของ (Johari’s windor ,1955)

ในแต่ละครั้งที่เราต้องพบเจอผู้คนในองค์กรหรือนอกองค์กร การสนทนา การแสดงความคิดเห็น หรือการพูดให้ความรู้ การนำเสนองานต่างๆ นั้น ควรประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เนื้อหาสาระของคำพูด 7% น้ำเสียง 38% กิริยาท่าทาง (บุคลิกภาพ) 55%

สาเหตุที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพคือ ความท้อถอย
        บุคลิกภาพที่ไม่สร้างสรรค์และอยู่ภายในตัวตนแล้วทำให้ความเป็นคนๆ นั้นไม่สมบูรณ์ ได้แก่ความท้อถอยแม้ว่าเป็นประโยคสั้นๆ แต่ถ้าอาการนี้ถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้ว อาการนี้จะเข้ามาทำลายความสมดุลในตัวเรา เข้ามาแทรกในความรู้สึกนึกคิดทำให้พลังและศักยภาพของเราลดน้อยลงกว่าครึ่ง ในเรื่องความท้อถอยมักเกิดขึ้นกับบุคคลที่อยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลในช่วงอายุอื่นจะไม่มีความท้อ บางท่านอาจเกิดอาการท้อเป็นช่วงๆ บางท่านโชคดีไม่รู้จักความท้อ 
ความท้อถอยสามารถสังเกตได้จากอาการ 3 ลักษณะ คือ
        1. ลักษณะของความท้อถอยทางด้านอารมณ์
        2. ลักษณะของความท้อถอยที่เกิดจากสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น
        3. ลักษณะของความท้อถอยที่เกิดจากการไม่ประสบความสำเร็จในการทำงาน
สาเหตุของความท้อถอย 
·     ด้านบุคลิกภาพ 
·     ด้านอายุ
·     ด้านสถานภาพการสมรส
·     ด้านการปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ
แนวทางและวิธีการในการแก้ไขอาการท้อถอย  
        1. ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแก้ไขที่ตัวเราเองเท่านั้น 
        2. อย่าเป็นคนตั้งความหวัง ความปรารถนาที่สูงสุดเอื้อม 
        3. สร้างเจคติเรื่องงานใหม่ให้ท่านคิดว่า “งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุขทำงานให้สนุกเป็นสุขเมื่อทำงาน”
        4. มองหาจุดมุ่งหมายในชีวิตใหม่ 
ครูกับการพัฒนาตน
        1. การพัฒนาตนเป็นการที่บุคคลพยายามหาวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ตนเองก้าวไปสู่การเป็นผู้มีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์ ในขอบเขตที่มีความพอเหมาะพอดีกับความสามารถของผู้นั้น
        2. ครูควรพัฒนาตนเองใน 2 ลักษณะคือ
            2.1 การพัฒนาตนเองในด้านวิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ
            2.2 การพัฒนาตนด้านการเป็นสมาชิกของสังคม เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

การพัฒนาตนเองควรประกอบด้วยขั้นตอน ดังนี้
        1. พยายามค้นพบตนเอง ทำความรู้จักตนเอง โดยหมั่นตรวจตราพิจารณาตนเองถึงอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ตลอดจนการกระทำของตนเอง นอกจากนี้ควรสนใจรับฟังข้อคิดเห็น หรือคำวิจารณ์ของบุคคลอื่นที่มีต่อตัวเราบ้าง ต่อจากนั้นให้หันกลับมาพิจารณาตนเองในแง่มุมเหล่านี้
            1.1 ตัวของเราที่เป็นจริงเป็นอย่างไร
            1.2 ตัวของเราที่รับรู้เป็นอย่างไร
            1.3 ตัวของเราที่เราอยากจะเป็น เป็นอย่างไร
        2.  เมื่อได้พิจารณาตนเองแล้ว รู้จักตนเองแล้ว เรายอมรับได้ไหมว่า สิ่งนั้นคือตัวเรา การยอมรับตนเองนั้น ควรจะยอมรับทั้งในส่วนที่เป็นจุดอ่อน และจุดเด่นไปด้วยกัน มิใช้จะยอมรับแต่จุดเด่น แล้วไม่สนใจจุดอ่อนโดยไม่ยอมรับจุดอ่อน
        3.  ท้ายที่สุด คือ การหาทางพัฒนาจุดอ่อนหรือส่วนที่เราไม่พอใจที่อยู่ในตัวเรา (bed me) ให้ดีขึ้น (good me)

หลักและวิธีเสริมสร้างบุคลิกภาพ
·     การยืน เดิน นั่งเป็นส่วนสำคัญที่บอกถึงบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลอิริยาบถคือการเดิน ยืน นั่ง เปิด-ปิดประตู ขึ้นลงรถ อย่างถูกต้องสวยงาม
·     การรู้จักทำตัวให้เข้ากับบุคคล สถานที่ และเวลา อย่างถูกต้องถือว่ามีมารยาททางสังคมที่ดี เช่น การรู้จักกราบไหว้ที่ถูกวิธี และถูกกาลเทศะ การรู้จักธรรมเนียมของชาวต่างชาติ การปฏิบัติตนในงานเลี้ยงต่างๆการไปเยี่ยมคนป่วยการมอบดอกไม้แสดงความยินดีหรือให้ผู้อาวุโส เป็นต้น
·     บางครั้งเราอาจจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ และอาจเกิดอะไรขึ้นกับเราได้ทุกวินาทีนั้น เราต้องพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ในลักษณะที่พร้อม คือไม่ตกใจ ดีใจ เสียใจ กลัว เกินกว่าเหตุ สามารถควบคุมท่าทางของตนเองได้เป็นอย่างดี

แนวทางในการพัฒนาบุคลิกภาพ
·     การรักษาสุขภาพอนามัย
·     การดูแลร่างกาย
·     การแต่งกาย
·     อารมณ์
·     ความเชื่อมั่นในตัวเอง

การพัฒนาบุคลิกภาพด้านความรู้สึกนึกคิด
        ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ถ้ามีความรู้สึกนึกคิดในด้านดี ไม่มองคนในแง่ร้ายจิตใจก็เป็นสุข ไม่มีความกังวล ดังนั้นจึงควรพัฒนาบุคลิกภาพด้านความรู้สึกนึกคิดดังนี้
        1.  มีความเชื่อมั่นในตนเองในการกระทำในสิ่งต่าง ๆ
        2.  มีความซื่อสัตย์ กระทำตนให้ผู้อื่นเชื่อถือเรา แล้วความไว้วางใจจะตามมา มีเรื่องสำคัญเขาก็จะให้เราทำ
        3.  มีความสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านั้น ให้เหมาะสมกับผู้ที่มอบหมายไว้วางใจให้เราทำ
        4.  มีความกระตือรือร้น ที่อยากจะทำ เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
        5.  มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักปรับปรุงงานอยู่เสมอ
        6.  มีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องมีความห่วงใยจะต้องทำให้เสร็จทันตามกำหนดเวลา
        7.  มีความรอบรู้                    
        8.  ห่วงตัวเอง เติมชีวิตให้กับตัวเอง
        9.  มีความจำแม่น                 
        10. วางตัวเหมาะสมกับกาลเทศะ

การพัฒนาบุคลิกภาพด้านกายบริหารทรวดทรง
        องค์ประกอบของทรวดทรง ขึ้นอยู่กับกลไกของการเคลื่อนไหวของร่างกายและโครงสร้างของร่างกายไม่ว่าหญิงหรือชายก็ชอบที่จะมีรูปร่างงามทั้งนั้น ผู้ชายก็ต้องการมีรูปร่างสมาร์ท ผู้หญิงก็ต้องการมีเอวบาง ร่างน้อย มีสุขภาพดี การมีรูปร่างงาม สุขภาพดี เกิดจากการพัฒนาตัวเราเอง เราเป็นผู้วางแผนในชีวิตของเราเอง
        ทรวดทรงอาจไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่ส่วนสัดและท่าทาง ทำให้คนทุกคนดูแตกต่างกันไป บุคลิกที่ไม่ดีแสดงว่าเจ้าของเรือนร่างขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ถ้าได้เรียนรู้วิธีเสริมสร้างเสน่ห์ให้กับบุคลิกภาพของตนเองแล้ว จะไม่เพียงทำให้มีรูปร่างสง่างามเท่านั้น ยังสามารถทำให้การปฏิบัติงานเกิดความเชื่อมั่น  งานก็มีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นจึงควรใช้เวลาในการบริหารทรวดทรงของตนเองเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะสุขภาพที่ดี และทรวดทรงที่งดงามอีกด้วย

การปรับปรุงบุคลิกภาพภายใน
·     การยอมรับความจริงเกี่ยวกับตนเอง 
·     การปรับปรุงในส่วนที่จะปรับปรุงได้ 
·     การใช้สิ่งอื่นๆ เพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพ 
        การส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีควรส่งเสริมคุณภาพจิตสาธารณะมากำกับ เพื่อบุคคลจะได้ลดละความเห็นแก่ตนในระดับที่พอดำรงชีวิตอยู่ได้ เสียสละ เกื้อกูลคนอื่น เป็นผู้รับในบางโอกาสและเป็นผู้ให้ในบางโอกาส มีจิตใจที่ดีงาม มีร่างกายที่สะอาดสดใสก็เท่ากับว่าบุคคลได้ส่งเสริมหรือพัฒนาบุคลิกภาพแล้วนั่นเอง

การพัฒนาบุคลิกภาพด้านการเรียนรู้
        ในโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นครูจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ให้ตรงกับตนเองอยู่เสมอ เช่น
        1. การฟัง
        2. การอ่าน
        3. การเขียน
        4. การสังเกต
        5. การคิด
        6. การทดลอง

Vocabulary (คำศัพท์)
Change - เปลี่ยนแปลง
Personality - บุคลิกภาพ
Always - สม่ำเสมอ
Acceptance - ยอมรับ
Development - พัฒนา


Applied (การประยุกต์ใช้)
 ได้เรียนรู้ถึงบุคลิกภาพแต่ละอย่างซึ่งทำให้เรากลับมามองตัวเองแล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดี      

Evaluation (การประเมิน)
Self (ประเมินตนเอง)
        ตั้งใจเรียนและมีปฎิสัมพันธ์ทางด้านความรู้กับเพื่อนและอาจารย์
Friends (ประเมินเพื่อน)
        เพื่อนตั้งใจเรียนและนำเสนองานได้ดี
Teacher (อาจารย์)
        อาจารย์ให้คำแนะนำและให้ความรู้อย่างดี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกการเรียนครั้งที่ 16  วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ.2561 KNOWLEDGE นำเสนอคำคมทางบริหาร นำเสนอโมเดลโรงเรียนที่แต่ละกล...